เสียงของคำในภาษาไทยมีหลายลักษณะที่ผู้อ่านออกเสียงควรจะทำความเข้าใจและฝึกฝนเพื่อให้อ่านออกเสียงคำได้ถูกต้อง
1.การอ่านอักษรควบ คือ มีพยัญชนะตัวหน้า 1 ตัว และมีตัว
ร,ล, หรือ ว
ร่วมสระเดียวกัน การอ่านอักษรควบ มีข้อแนะนำ ดังนี้
1.1 อ่านออกเสียงทั้งพยัญชนะตัวแรก และเสียง ร หรือ ล หรือ ว
ซึ่งร่วมสระเดียวกันนั้น ควบกล้ำกันไป เช่น เกรียวกราว ขลาดเขลา ครั้งคราว
คลาดเคลื่อน พรั่งพร้อม เป็นต้น ฃลุกษณะนี้เรียกว่า อ่านอย่างควบแท้
1.2 อ่านออกเสียงพยัญชนะตัวแรกเท่านั้น ไม่ออกเสียงตัว ร หรือ ล
ที่ร่วมสระเดียวกัน เช่น จริง อ่านว่า [จิง] แสร้ง อ่านว่า [แส้ง] ศรี อ่านว่า [สี] เป็นต้น ลักษระนี้เรียกว่า
อ่านอย่างควบแท้
1.3 อ่านออกเสียงพยัญชนะตัวแรก ท หรือ
ร เป็นเสียง ซ เช่น พุทรา อ่านว่า [พุด-ซา] ทรุดโทรม อ่านว่า [ซุด-โซม] ทราบ อ่านว่า [ซาบ] ฉะเชิงเทรา
อ่านว่า [ฉะ-เชิง-เซา] เป็นต้น
ลักษณะนี้เรียกว่า อ่านอย่างควบไม่แท้
*ทั้งนี้ต้องระมัดระวังการออกเสียง ทร เนื่องจากมีบางคำที่ ทร
ออกเสียงควบกล้ำอย่างควบแท้ เช่น จันทรา อ่านว่า [จัน-ทรา] อินทรา อ่านว่า [อิน-ทรา] นิทรา อ่านว่า [นิด-ทรา]
2.การอ่านอักษรนำ
คือ มีพยัญชนะต้นสองตัวร่วมสระเดียวกัน การอ่านอักษรนำ มีข้อแนะนำ ดังนี้
2.1 กรณีอักษรสูง (ข ฃ ฉ ถ ฐ ผ ฝ ศ ษ ส ห) เป็นตัวนำ และอักษรต่ำเดี่ยว (ง ญ น ย
ณ ร ว ม ฬ ล) เป็นตัวตาม เมื่ออ่านออกเสียงให้ออกอะกึ่งสียงที่ตัวนำ
ส่วนตัวตามให้ออกเสียงวรรณยุกต์เสียงจัตวาหรือเสียงสูงตามตัวนำ เช่น
สงวน อ่านว่า [สะ-หงวน]
ถนอม อ่านว่า [ถนอม]
2.2 อักษรสูงนำอักษรต่ำคู่ เมื่ออ่านให้ออกเสียงอะกึ่งเสียงที่ตัวนำ
ส่วนตัวตามให้ออกเสียงวรรณยุกต์ตามปกติไม่ต้องออกเสียงสูงตามตัวนำ เช่น
ไผท อ่านว่า [ผะ-ไท]
สภา อ่านว่า [สะ-พา]
2.3อักษรกลาง (ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ)
นำอักษรต่ำเดี่ยวเมื่ออ่านให้ออกเสียงอะกึ่งเสียงที่ตัวนำ
ส่วนตัวตามให้ออกเสียงวรรณยุกต์ตามตัวนำที่เป็นอักษรกลาง เช่น
กนก อ่านว่า [กะ-หนก]
จมูก อ่านว่า [จะ-หมูก]
2.4 อักษร อ นำ ย ไม่ต้องออกเสียงอะที่ตัวนำ ให้ออกเสียงวรรณยุกต์ของตัว ย
ตามเสียงตัว อ เช่น
อย่า อ่านว่า [หย่า]
อยู่ อ่านว่า [หยู่]
อย่าง อ่านว่า [หย่าง]
อยาก อ่านว่า [หยาก]
2.5อักษร ห นำอักษรต่ำเดี่ยว ไม่ต้องออกเสียง อะ กึ่งเสียง
ที่ตัวนำแต่ออกเสียงวรรณยุกต์ตามตัว ห เช่น
หมอ อ่านว่า [หมฺอ]
หลง อ่านว่า [หลฺง]
3. การอ่านสมาส การอ่านคำสมาสมีข้อแนะนำ ดังนี้
3.1 ถ้าเป็นคำสมาสที่พยางค์ท้ายของคำหน้าไม่มีรูปสระปรากฏอยู่ให้อ่านออกเสียง
อะ ที่พยางค์ท้ายของคำหน้าต่อเนื่องกับพยางค์หลัง เช่น
กิจกรรม อ่านว่า [กิด-จะ-กำ]
อิสรภาพ อ่านว่า [อิด-สะ-หระ-พาบ]
3.2 ถ้าเป็นคำสมาสที่พยางค์ท้ายของคำหน้ามีรูปสระปรากฏอยู่
ให้ออกเสียงพยางค์ท้ายประสมกับรูปสระที่ปรากฏอยู่ต่อเนื่องกับพยางค์หลัง เช่น
ประวัติศาสตร์ อ่านว่า [ประ-วัด-ติ-สาด]
อุบัติเหตุ อ่านว่า [อุ-บัด-ติ-เหด]
3.3 คำสมาสบางคำไม่อ่านตามข้อแนะนำข้างต้น เช่น
ชลบุรี อ่านว่า [ชน-บุ-รี]
สุพรรณบุรี อ่านว่า [สุ-พัน-บุ-รี]
4. การอ่านคำยืมจากภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต มีข้อแนะนำ ดังนี้
4.1 อ่านแบบเรียงพยางค์ คำที่ไม่มีรูปสระกำกับให้ออกเสียง อะ เช่น
กรณี อ่านว่า [กะ-ระ-นี]
ปกติ อ่านว่า [ปะ-กะ-ติ]
4.2 กรณีที่เป็นพยัญชนะตัวสะกดไม่ต้องออกเสียง อะ ที่ตัวสะกด
เช่น
สัปดาห์ อ่านว่า [สับ-ดา]
อาชญา อ่านว่า [อาด-ยา]
4.3 ถ้าพยัญชนะตัวสะกดของของพยางค์หน้าเป็นตัว ล ให้ออกเสียงตัว ล มีเสียงสระอะ
กึ่งเสียงต่อเนื่องกับพยางค์หลังด้วย เช่น
กัลบก อ่านว่า [กัน-ละ-บก]
ศิลปะ อ่านว่า [สิน-ละ-ปะ]
4.4 ถ้าพยัญชนะตะสะกดของพยางค์หน้าเป็นตัว
ศ ษ ส ให้ออกเสียง อะ กึ่งเสียง ต่อเนื่องกับพยางค์หลังด้วย เช่น
สัสดี อ่านว่า [สัด-สะ-ดี]
พัสดุ อ่านว่า [พัด-สะ-ดุ]
ยกเว้น บางคำที่ไม่ออกเสียง อะ
ที่ ศ ษ ส เช่น
สวัสดี อ่านว่า [สะ-หวัด-ดี]
อธิษฐาน อ่านว่า [อะ-ทิด-ถาน]
สันนิษฐาน อ่านว่า [สัน-นิด-ฐาน]
5.
การอ่านตัว ฤ (รึ) มีข้อแนะนำ ดังนี้
5.1 อ่านออกเสียง เออ ได้แก่ ฤกษ์ อ่านว่า [เริก]
5.2 อ่านออกเสียง [ริ] เมื่อประสมกับพยัญชนะ ได้แก่ ก ต ท ป ศ ส เช่น
กฤษณา อ่านว่า [กริด-สะ-หนา]
วิกฤติ อ่านว่า [วิ-กริด]
5.3 อ่านออกเสียง รึ เมื่อประสมกับพยัญชนะ ค น พ ม ท เช่น
คฤหาสน์ อ่านว่า [คะ-รึ-หาด]
มฤคา อ่านว่า [มะ-รึ-คา]
หรือตัว ฤ ที่เป็นพยางค์หน้าของคำ เช่น
ฤทัย อ่านว่า [รึ-ไท]
ฤดี อ่านว่า [รึ-ดี]
พชร อ่านว่ายังไงคะ พด-ชะ-ระ หรือ พะ-ชะ-ระ คะ
ตอบลบพะ-ชะ-ระ
ลบยุค
ตอบลบยอ อุ คอ
ลบ